ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้นำนาฬิกาข้อมือโกลเด้น อีลิฟต์ที่เป็นเอกลักษณ์กลับมาตีความใหม่อีกครั้ง โดยรังสรรค์ร่วมกับ สายนาฬิกาพิเศษซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรใหม่ สวมใส่สบายและงดงาม นาฬิกาโกลเด้น อีลิฟต์ รุ่น 5738/1R-001 ใหม่ติดตั้งด้วยคาลิเบอร์ 240 กลไกไขลานอัตโนมัติขนาดบางเป็นพิเศษ ตัวเรือนและสายนาฬิกาโรสโกลด์ พร้อมหน้าปัดสีดำเข้มกระจายแสงหลักบอกเวลาโรสโกลด์ และเข็มนาฬิกาโรสโกลด์เพรียวบางอัน โดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง
ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ระหว่างวงกลมและสี่เหลี่ยม ประกอบกับความกลมกลืนของสัดส่วนที่ได้รับแรงบันดาลใจ จากสัดส่วนทองคำดั้งเดิม นาฬิกาโกลเด้น อีลิฟต์จึงเป็นนาฬิกาที่มีชื่อเสียงด้วยสไตล์พิเศษสำหรับคอลเล็กชันปาเต็ก ฟิลลิปป์ นาฬิการุ่นนี้เปิดตัวในปี 1968 ด้วยตัวเรือนทองคำพร้อมหน้าปัดสีทองน้ำเงิน จากนั้นได้สร้างสรรค์ออกมาใน รูปแบบสีทองเฉดอื่นร่วมกับหน้าปัดสีอื่นๆ สำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ในปี 2008 นาฬิกาคอลเล็กชันนี้ได้ นำเสนอนาฬิกาโกลเด้น อีลิฟต์โมเดลใหญ่ (ขนาด 34.5 x 39.5 มิลลิเมตร) ในเวอร์ชั่นแพลทินัม พร้อมหน้าปัดสีน้ำเงิน กระจายแสง (รุ่น 5738P-001) และต่อจากนั้นในปี 2018 ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้สร้างสรรค์นาฬิกาโกลเด้น อีลิฟต์โมเดลใหญ่ เวอร์ชั่นโรสโกลด์ หน้าปัดสีดำเข้มกระจายแสง (5738R-001) ตามมา
ตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวจนถึงช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 คอลเล็กชันนาฬิกาโกลเด้น อีลิฟต์ ได้นำเสนอมาพร้อมกับสาย นาฬิกาหลายรูปแบบ ไม่เพียงแค่สายนาฬิกาหนังเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสายนาฬิการูปทรงโซ่อันหลากหลายสไตล์ เช่น สายนาฬิกาสไตล์ milanais สำหรับรุ่น 3548 (ในปี 1968) หรือ สายนาฬิกาสไตล์ polonais สำหรับรุ่น 3605 (ในปี 1974) จากนั้นยังมีสายนาฬิการูปทรงข้อที่มีรูปแบบเฉพาะ การสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ผ่านการนำเสนอ จากสายนาฬิกาได้เพิ่มความสง่างดงามให้กับนาฬิกาที่มีความสำคัญโดดเด่นในช่วงทศวรรษที่ 1970 นี้ เป็นการ สะท้อนการผสมผสานกันที่เป็นเอกลักษณ์ระหว่างความแข็งแกร่งและความสมดุล
สายนาฬิการูปทรงโซ่ที่สร้างสรรค์ใหม่อีกครั้ง
ปาเต็ก ฟิลลิปป์ได้กลับไปในยุคอันยิ่งใหญ่ของการออกแบบเครื่องบอกเวลาอีกครั้ง ด้วยการนำเสนอนาฬิการุ่น 5738 พร้อมสายนาฬิการูปทรงโซ่โรสโกลด์ที่สง่างดงามรับกับข้อมือ สวมใส่สบาย ในขณะเดียวกันก็เน้นความละเอียดประณีต ของตัวเรือน เพื่อตอกย้ำความต่อเนื่องทางด้านนวัตกรรม บริษัทตั้งใจที่จะนำสายนาฬิการูปทรงโซ่กลับมาสร้างสรรค์ใน คอลเล็กชันอีกครั้ง โดยการตัดจุดด้อยด้านเทคนิคที่เคยมีอยู่ในเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการ ปรับความยาวของสายนาฬิกา จากการพัฒนาถึง 15 ปี สายนาฬิกาใหม่ในรูปแบบโรสโกลด์ 18K ขัดเงาด้วยมือทั้งสาย โดดเด่นทันสมัยพร้อมโครงสร้างสายที่ได้รับสิทธิบัตร อันเป็นที่มาของการสร้างสรรค์อีกครั้งสำหรับสายนาฬิการูปทรง โซ่ดั้งเดิม ชิ้นส่วนประกอบกันถึง 363 ชิ้นส่วน และข้อมากกว่า 300 ข้อที่ประกอบขึ้นด้วยมือทีละข้อ สายนาฬิกาใหม่ นำเสนอเฉพาะสำหรับนาฬิกาโกลเด้น อีลิฟต์ รุ่น 5838/1R-001 จากโครงสร้างที่ทันสมัยนี้ทำให้สายนาฬิกาสามารถ ปรับความยาวสายได้ง่ายไม่ว่าสายจะสั้นไปหรือยาวไปก็ตาม โดยมีหัวเข็มขัด (ตกแต่งด้วยลวดลายสลักตลอดทั้งสาย นาฬิกา) ซึ่งสามารถปรับได้ 3 ระดับ
การออกแบบหน้าปัดที่งดงามไร้ขีดจำกัด
หน้าปัดสีดำเข้ม “กระจายแสง" หลักบอกเวลาโรสโกลด์รูปทรงบาตอง และเข็มบอกเวลาโรสโกลด์รูปทรง cheveu เน้นให้เห็นถึงความงดงามที่ไร้ขีดจำกัด อันสะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกาโกลเด้น อีลิฟต์ ร่วมกับเม็ดมะยม ที่ทำจากอัญมณีรูปทรงหลังเบี้ยสีดำเข้ม เสริมความกลืมกลืนให้กับดีไซน์ที่สมบูรณ์
นาฬิกาปาเต็ก ฟิลลิปป์ที่มีความบางที่สุด
นาฬิกาโมเดลนี้ติดตั้งด้วยคาลิเบอร์ 240 กลไกไขลานอัตโนมัติที่มีขนาดบางเป็นพิเศษ โดยมีจานเหวี่ยงออกจากจุด ศูนย์กลางขนาดเล็กมากทำจากทองคำ 22K (5.9 มิลลิเมตร) ส่งผลให้นาฬิกาโกลเด้น อีลิฟต์ รุ่น 5738 เป็นนาฬิกาที่ บางที่สุดในนาฬิกาคอลเล็กชันของปาเต็ก ฟิลลิปป์
ปาเต็ก ฟิลลิปป์และสายนาฬิกาโลหะ
นับตั้งแต่มีการสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือเรือนแรกในทศวรรษที่ 1910 ปาเต็ก ฟิลลิปป์เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในด้าน ความเป็นเลิศด้านเทคนิคและการสร้างสรรค์ที่งดงามของสายนาฬิกา ในขณะที่เมื่อปลายทศวรรษ 1960 และในช่วง ตลอดทศวรรษ 1970 ปาเต็ก ฟิลลิปป์ก็ยังคงโดดเด่นในด้านการสร้างสรรค์ยิ่งใหญ่ของสายนาฬิกาแบบโลหะ สายนาฬิกาโลหะปาเต็ก ฟิลลิปป์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ตามลักษณะของโครงสร้าง
ข้อของสายนาฬิการูปทรงโซ่ สร้างสรรค์ขึ้นมาทีละข้อโดยช่างสายนาฬิกาที่มีฝีมือและความชำนาญสูง จากเส้นของ ทองหรือเส้นของโลหะอื่น จากนั้นประกอบด้วยมือ เพื่อสร้างโครงสร้างที่มีความยืดหยุ่นนิ่มนวลเฉพาะ ตลอด ระยะเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของบริษัท ปาเต็ก ฟิลลิปป์ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องที่จะนำเสนอทักษะที่เป็นเลิศด้าน ความงดงามและการเลือกใช้ผู้จัดหาวัสดุที่เป็นเลิศ เช่น Gennari Ponti ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น ARSA (Ateliers Reunis SA) ก่อนที่จะรวมเข้ากับปาเต็ก ฟิลลิปป์ เมื่อได้มีการรวมทุกโรงงานของบริษัทเข้าด้วยกันที่ Plan-les-Ouates ในปี 1996
ข้อ ตัวล้อค และตัวยึด ที่ประกอบกันเป็นสายนาฬิกาซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็น “กลไก" โดยสร้างสรรค์ด้วยเครื่องจักร CNC จากแท่งโลหะ (ทอง แพลทินัม หรือสตีล) ก่อนที่จะประกอบด้วยมือ จากนั้นขัดเงาหรือขัดซาตินด้วยมือ ขึ้นอยู่กับแต่ ละสายนาฬิกา การทำงานรูปแบบนี้รวมไปถึงการขัดเงา/ขัดซาตินของนาฬิกานอติลุส (เปิดตัวในปี 1976 และต้องใช้ การทำงานสำหรับการตกแต่งขั้นตอนสุดท้ายกว่า 15 ขั้นตอนที่แตกต่างกัน) นอกจากนี้ยังรวมไปถึงสายนาฬิกาที่ เรียกว่า “Goutte" (หรือ “droplet” (ปี 1998) และสายนาฬิกาขัดเงาของนาฬิกาเลดี้ทเวนตี้ โฟร์ (ปี 1999)
สายนาฬิการูปทรงโซ่ใหม่นี้ พัฒนาและรังสรรค์โดยพาร์ทเนอร์สำคัญของปาเต็ก ฟิลลิปป์ที่ทำงานร่วมกันในอดีต ซึ่งได้ นำเสนอนาฬิกาโกลเด้น อีลิฟต์รุ่น 5738/1R-001 ที่มีความเป็นเอกลักษณ์พิเศษ โดยเป็นการผนวกกันของสิ่งที่สุดใน โลกสองสิ่งได้แก่ ชิ้นส่วนที่ผลิตโดยขั้นตอนทางอุตสาหกรรมบนเครื่องจักร CNC รุ่นล่าสุด ร่วมกับการประกอบและ ตกแต่งขั้นตอนสุดท้ายด้วยมือ อันเป็นการรวมความรู้ความสามารถดั้งเดิมทั้งหมดเข้าด้วยกันของช่างฝีมือสายนาฬิกา
Patek Philippe announces the return to center stage of the chain-style bracelet in the Golden Ellipse collection
The manufacture is reinterpreting its iconic Golden Ellipse wristwatch by endowing it with an exclusive brand-new bracelet whose modern patented construction unites comfort with elegance. Equipped with the caliber 240 ultra-thin self-winding movement, the new Golden Ellipse Reference 5738/1R-001 presents a case and bracelet in rose gold framing an ebony-black sunburst dial on which the slender hour markers and hands, also in rose gold, stand out clearly.
With its instantly recognizable shape, between a circle and a rectangle, and its harmonious proportions inspired by the ancient golden section, the Golden Ellipse has made its mark as a style icon in the Patek Philippe collections. Launched in 1968 with a case in yellow gold and a dial in blue gold, it has since appeared in other hues of gold and with dials of different colors. For its 40th anniversary in 2008, the collection introduced a large model (34.5 x 39.5 mm) in platinum, with a blue sunburst dial (5738P-001) followed in 2018 by a large model in rose gold with an ebony-black sunburst dial (5738R-001)
From the time of its launch and through to the early 1980s the Golden Ellipse collection was proposed, not only on leather straps but on several types of chain bracelet, such as the milanais-style bracelet of Reference 3548 (1968) or the polonais-style bracelet of Reference 3605 (1974). To these must be added a number of link bracelets with particularly distinctive designs. This great creativity expressed in the bracelets added to the aura surrounding this flagship watch of the 1970s, a unique alliance of audacity and balance.
A reinvented chain bracelet
‘Patek Philippe is revisiting this great era of horological design by proposing Reference 5738 on an elegant chain-style bracelet in rose gold that follows the contours of the wrist and offers superb comfort while also accentuating the finesse of the case. True to its continuous quest for innovation, the manufacture was intent on reinstating the chain bracelet in the collection, but eliminating the technical drawbacks associated with the previous versions, particularly with respect to adjusting the length. The product of 15 years’ development, the new bracelet in 18K rose gold, hand-polished throughout, is distinguished by its modern, patented construction, which made it possible to recreate the style of the classic chain bracelets. It comprises 363 parts, including more than 300 links, assembled manually one by one. The new bracelet is introduced as an exclusive feature of this Golden Ellipse Reference 5738/1R-001. Its modern construction allows the length to be adjusted more easily, whether shorter or longer. The clasp (its cover adorned with an engraved motif continuing that of the bracelet) offers the choice of three adjustment notches.
A pure, timeless dial design
The ebony-black “sunburst" dial forms a background to baton-style applied hour markers and slender cheveu-style hands, all in rose gold. This timeless, understated aesthetic perfectly reflects the spirit of the Golden Ellipse. A black onyx cabochon set into the crown completes the visual harmony of the design.
The slimmest Patek Philippe watch
Beating inside this model is the self-winding caliber 240, an ultra-thin movement with off-center mini-rotor in 22K gold allowing for a case with an extremely low profile (5.9 mm) – making the Golden Ellipse Reference 5738 the slimmest watch in the Patek Philippe regular collection.
The new Reference 5738/1R-001 joins the regular collection References 5738P-001, 5738R-001 and the Rare Handrafts Reference 5738/51G-001.\
Patek Philippe and the metal bracelets
Ever since the emergence of the first wrist-worn timepieces in the 1910s, Patek Philippe has been renowned for the technical and aesthetic inventiveness of its bracelets. The late 1960s and the decade of the 70s also stands out as a period of great creativity in the metal bracelets proposed.
Patek Philippe’s metal bracelets can be divided into two types, according to the way in which they are constructed.
The links of the chain bracelets are crafted one by one by artisan chainsmiths from a gold wire or a wire in another metal, and then assembled by hand to produce a structure that is remarkably supple. Throughout its history Patek Philippe has continued to showcase the skills of its artisans and certain specialized suppliers, such as Gennari Ponti, subsequently renamed ARSA (Ateliers Réunis SA) before being integrated into Patek Philippe when all the manufacture’s workshops were united under one roof at Plan-les-Ouates in 1996.
The links, clasps and catches comprising the bracelets known as “mechanical" are produced on CNC machinery from a bar of metal (gold, platinum or steel) before being assembled by hand and then depending on the bracelet – polished or satin brushed, also by hand. This category includes the polished/satin-brushed bracelet of the Nautilus (launched in 1976 and requiring more than 15 different finishing operations), the “Goutte" (or “droplet") bracelet (1998) and the fully polished bracelet of the ladies’ Twenty~4 watch (1999).
The new chain-style bracelet developed and crafted by a historic partner of Patek Philippe and introduced as an exclusive feature of the Golden Ellipse Reference 5738/1R-001 unites the best of those two worlds, with parts produced by industrial processes on the latest-generation CNC machines, and then assembled and finished by hand, drawing on all the traditional know-how of the artisan chainsmiths.