มหาเศรษฐีมีแต่จะรวยขึ้นเรื่อย ๆ
ครอบครัวมหาเศรษฐีจะมีมูลค่ารวมกันถึง 9.5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ตามรายงานของ Bloomberg เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตัวเลขที่สูงลิบลิ่วนี้จากรายงานใหม่ของ Deloitte ซึ่งสำรวจจากธุรกิจครอบครัว นี่เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจโดยคิดเป็นเปอร์เซนต์สูงถึง 73% จาก 5.5 ล้านล้านดอลลาร์ที่ครอบครองโดยผู้ที่มีธุรกิจดังกล่าวในปัจจุบัน ในช่วงเวลาเดียวกัน คาดว่าจำนวนของธุรกิจภายในครอบครัวจะเพิ่มขึ้นหนึ่งในสามเป็น 10,720 แห่ง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจภายในครอบครัวได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้ที่มีฐานะร่ำรวยพอที่จะมีธุรกิจเป็นของตนเอง Bloomberg กล่าวว่า การเปิดธุรกิจภายในครอบครัวนั้นง่ายขึ้นและมีข้อจำกัดน้อยกว่ากองทุนเฮดจ์ฟันด์ ดังนั้นจึงอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ ๆ ได้ เช่น กรณีของ Bill Hwang นักลงทุน Archegos Capital Management ที่ผิดสัญญาในปี 2021 และในเดือนกรกฎาคมเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดจากข้อหาอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการล่มสลาย
ธุรกิจครอบครัวที่ประเมินในรายงานของ Deloitte มีสินทรัพย์เฉลี่ย 2 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Bloomberg มีเพียงหนึ่งในสามเท่านั้นที่นำโดยบุคคลภายนอกครอบครัว “การจะจัดการทรัพย์สินขนาดนี้ได้แน่นอนว่ามีความเสี่ยง" Rebecca Gooch หัวหน้าฝ่ายข้อมูลเชิงลึกของ Deloitte Private กล่าวกับสำนักข่าว “ธุรกิจครอบครัวจำเป็นต้องระมัดระวังเกี่ยวกับคนที่พวกเขานำเข้ามาทำงาน"
ข้อมูลใหม่เป็นเพียงสัญญาณล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่ามหาเศรษฐีควบคุมเงินมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่จะได้รับการพิจารณาว่าเป็นสมาชิกของ 1 เปอร์เซ็นต์ในสหรัฐอเมริกาและคุณจะต้องมีเงินอย่างน้อย 5.8 ล้านดอลลาร์ รายงานจากต้นปีนี้แสดงให้เห็น ว่าตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากปี 2023 (หากคุณอาศัยอยู่ในโมนาโค คุณจะต้องมีเงิน 12.8 ล้านดอลลาร์เพื่อให้ผ่านเกณฑ์) และเมื่อเดือนที่แล้ว รายงานฉบับหนึ่งระบุว่าประชากรมหาเศรษฐีของโลก ซึ่งมีมูลค่าสุทธิ 30 ล้านดอลลาร์หรือมากกว่านั้น คาดว่าจะเติบโต 38% ภายในปี 2028
ตัวเลขเหล่านั้นซีดลงเมื่อเทียบกับความมั่งคั่งที่แสดงอยู่ในรายงานของ Deloitte ซึ่งส่วนใหญ่เน้นมหาเศรษฐีมากกว่าเศรษฐี และในความเป็นจริง คนรวยที่สุด 500 คนในโลก มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว พวกเขากำลังตั้งเป้าที่จะเพิ่มตัวเลขขึ้นอีกมากในหกปีข้างหน้า
จากบทความโดย Tori Latham
The wealthy are only getting wealthier.
Super-rich families are set to be worth a bonkers $9.5 trillion by 2030, Bloomberg reported on Wednesday. That sky-high number, from a new Deloitte report that surveyed family offices, is an impressive 73 percent increase from the $5.5 trillion currently owned by people with such businesses. In that same time span, the number of family offices is expected to jump by one-third to 10,720.
In recent years, family offices have become more popular with those wealthy enough to have them, Bloomberg noted. It’s become easier to open a family office, for example, and they have fewer restrictions than a hedge fund. Because of that, though, they can also lead to major problems—take the case of Bill Hwang: The investor’s Archegos Capital Management defaulted in 2021, and in July he was found guilty of criminal charges related to the collapse.
The family offices assessed in the Deloitte report managed an average of $2 billion in assets, according to Bloomberg. With just about 15 employees, only one-third were led by someone outside the family in question. “It can definitely be risky managing that much wealth," Rebecca Gooch, global head of insights for Deloitte Private, told the outlet. “Family offices really need to be careful about who they bring on board."
The new data are just the latest signal that the super-rich are controlling more money than ever before. To even be considered a member of the 1 percent in the United States, you would need to have at least $5.8 million, a report from earlier this year showed. That’s a 15 percent increase from 2023. (If you live in Monaco, you would need an even more hefty $12.8 million to meet that threshold.) And just last month, another report noted that the world’s ultra-wealthy population—those with a net worth of $30 million or more—is expected to grow 38 percent by 2028.
Those numbers pale in comparison to the wealth depicted in Deloitte’s report, which is largely focused on billionaires rather than millionaires. And in fact, the 500 richest people in the world collectively got $1.5 trillion wealthier last year. They’re on track to bring in only more dough in the next six years.
From the article by Tori Latham
