ร้านอาหารในตำนาน Jimmy’s Kitchen

“ไก่ยัดไส้เนย ยังมีขายอยู่ไหม?”

ประโยคนี้มักจะเป็นคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในใจของทุกคน เมื่อก้าวเข้าไปในร้าน Jimmy’s Kitchen ที่เพิ่งเปิดใหม่ เช่นเดียวกับเนื้อเวลลิงตันของร้านอาหาร Gordon Ramsay ในลอนดอน, เนื้อสัตว์อบครีมสไตล์รัสเซีย ของร้าน Russian Tea Room (ในนิวยอร์ค หรือ ปลาคอดดำมิโซะของร้าน Nobu อาหารบางจานกลายเป็นเอกลักษณ์ที่แยกไม่ออกจากร้านอาหารชื่อดังเหล่านั้น

ไก่ยัดไส้เนยระดับพรีเมียมยังคงอยู่บนเมนู อร่อยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ไก่มาดราสก็กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง รวมถึงขนมอบอลาสก้าเองก็กลับมาพร้อมความอลังการเช่นเคย เมนูคลาสสิกยอดนิยมมากมายยังคงมีให้เลือก ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทางร้านที่จะรักษาตำนานด้านอาหารเอาไว้ “เรารู้ว่าเราจะนำเมนูเด็ดอันเป็นเอกลักษณ์แบบไหนกลับมา และจากนั้นก็เป็นเรื่องของการเติมเต็มเมนูด้วยอาหารที่ผู้คนชื่นชอบ" เชฟใหญ่ Russell Doctrove ชาวฮ่องกงกล่าว เมนูใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ อกเป็ดฝรั่งเศส และของทานเล่นสุดสร้างสรรค์อย่าง Hokkaido scallops และไก่ทอดราดซอสโคโรเนชั่น

สำหรับขาประจำ ร้าน Jimmy’s Kitchen ที่กลับมาเปิดอีกครั้งของในอาคาร Pedder นับเป็นเหมือนการได้กลับมาพบเจอกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ ร้านอาหารแห่งนี้คึกคักไปด้วยผู้คนตั้งแต่กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยมีลูกค้าจำนวนมาก – หลายคนอยู่ในวัยเกิน 65 ปี – ต่างก็ตั้งตารอที่จะกลับมาเยือนสถานที่อันเป็นตำนานแห่งนี้อีกครั้ง “เรารับลูกค้าได้มากกว่า 100 คนทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์" เชฟใหญ่ Russell Doctrove กล่าว

การกลับมาครั้งนี้ของ Jimmy’s Kitchen ผสมผสานกลิ่นอายความคลาสสิกเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ร้านอาหารแห่งนี้โดดเด่นด้วยครัวแบบเปิด ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นเชฟรังสรรค์เมนูอาหารได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีห้องอาหารแบบยาว บาร์ค็อกเทล บาร์ครูโด ห้องอาหารหลัก และห้องอาหารส่วนตัว ไฮไลท์สำคัญของร้านอยู่ที่ครัวแบบเปิด ซึ่งช่วยให้แขกผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับมื้ออาหาร ขณะเดียวกันก็ได้สัมผัสกับเวทมนตร์แห่งการปรุงอาหารไปด้วย

ร้าน Jimmy’s Kitchen เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 1928 บนถนนล็อกฮาร์ต ย่าน Wan Chai โดยมีเมนูเด็ดเป็น พายสเต็กไต, แกงกะหรี่ และอาหารฟิวชั่นเอเชีย ต้อนรับทั้งลูกค้าตะวันตกและเอเชีย ต่อมาได้ย้ายไปยังอาคาร China Building บนถนน Theatre Lane ในอีกหกปีถัดมา และสุดท้ายที่ตั้งร้านอยู่ที่อาคาร South China Building ใจกลางเมือง แม้จะไม่ได้รับดาวมิชลิน แต่ Jimmy’s Kitchen ก็เป็นร้านอาหารยอดนิยมที่เหมาะสำหรับการสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ร่วมงานเลี้ยงกับเพื่อนร่วมงาน หรือรับประทานอาหารกับครอบครัว ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ร้านแห่งนี้เปลี่ยนเจ้าของมาหลายครั้ง แต่ตั้งแต่ปี 2002 ร้านได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มภัตตาคาร Epicurean Group ซึ่งยังคงรักษาเมนูและการดำเนินงานเดิมไว้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 บังคับให้ร้านต้องปิดตัวลงในปี 2020 สร้างความเสียใจให้กับใครหลายคน

การกลับมาเปิดอีกครั้งของ Jimmy’s Kitchen เปรียบเหมือนสัญญาณแห่งความหวังและการเริ่มต้นใหม่ “ผมไม่คิดว่าคุณจะหาแนวคิดร้านอาหารแบบนี้ได้ง่ายๆ ในฮ่องกง ร้านอาหารที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานขนาดนี้" เชฟใหญ่ Russell Doctrove กล่าว สถานที่แห่งใหม่นี้ โดดเด่นด้วยครัวแบบเปิด ซึ่งสร้างความโปร่งใสและช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นให้กับทีมงาน

เมนูอาหารของ Jimmy’s Kitchen ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารสไตล์ยุโรป สะท้อนถึงอิทธิพลที่หลากหลายมากกว่าการเป็นอาหารฟิวชั่น “เราเป็นครัวอาหารสไตล์ยุโรป ซึ่งบ่งบอกถึงอิทธิพลที่แตกต่างกันที่หล่อหลอมเมนูอาหารของเรา ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส เอเชีย หรืออังกฤษ" เชฟใหญ่ Russell Doctrove อธิบาย แนวทางการปรุงอาหารของเขา คือการคงความเรียบง่ายและเน้นคุณภาพของวัตถุดิบ

การกลับมาเปิดร้านอีกครั้งของ Jimmy’s Kitchen เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงตำนานอันยาวนานและเสน่ห์เหนือกาลเวลาของเมนูคลาสสิก ทำให้ร้านอาหารแห่งนี้ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารอันเป็นที่รักของชาวฮ่องกงต่อไป

Jimmy’s Kitchen
สถานที่ตั้ง: M/F, Pedder Building, 12 Pedder Street, Central
โทรศัพท์: (+852) 2526 5293
หมายเหตุ: ต้องทำการจองโต๊ะล่วงหน้า

จากบทความบน robbreport.hk โดย P.RAMAKRISHNAN

“Is the chicken Kiev still on the menu?”

Chicken Supreme Kiev at Jimmy’s Kitchen

This is the first question on everyone’s mind when stepping into the newly reopened Jimmy’s Kitchen. Like the beef Wellington at Restaurant Gordon Ramsay in London, the beef Stroganoff at the Russian Tea Room in New York, or the black cod miso at Nobu, some signature dishes are inseparable from their famed establishments.

Indeed, the chicken supreme Kiev remains on the menu, as delightful as ever. The chicken Madras is back in style, and the baked Alaska returns with its usual flair. Many beloved classics are still available, a testament to the restaurant’s commitment to its culinary legacy. “We knew which iconic dishes we were going to bring back and then it was a case of filling out the menu with dishes that people like," says Hong Kong-born executive chef Russell Doctrove. New additions include the French duck breast and playful appetizers like Hokkaido scallops and coronation fried chicken.

For longtime patrons, the reopening of Jimmy’s Kitchen in the Pedder Building is akin to reuniting with an old friend. The restaurant has seen a flurry of activity since its return, with waves of guests—many over 65—eager to revisit this iconic establishment. “We’re doing 100-plus covers for lunch and dinner, Monday to Sunday," notes Doctrove.

The restaurant’s new iteration blends nostalgia with modernity. It features an open, spotless kitchen where diners can watch chefs at work, a long dining lounge, cocktail bar, crudo bar, main dining rooms, and a private dining room. The open kitchen, a focal point of the establishment, allows guests to enjoy their meals while observing the culinary magic unfold.

Jimmy’s Kitchen first opened in 1928 on Lockhart Road, Wan Chai, offering steak and kidney pie, curries, and hybrid Asian cuisine to both Western and Asian patrons. It moved to the China Building in Theatre Lane six years later, and finally settled in the South China Building in Central. Though not Michelin-starred, Jimmy’s Kitchen was a dining hotspot for friends, colleagues, and families. Its ownership has changed over the years, but since 2002, it has been part of the Epicurean Group, which maintained the menu and operations. However, the pandemic forced its closure in 2020, marking a sad moment for many.

The reopening signifies hope and renewal. “I don’t think you’ll get many concepts like this in Hong Kong with this huge history," says Doctrove. The new venue, with its open kitchen, offers transparency and keeps the team motivated.

Jimmy’s Kitchen’s menu is inspired by continental cuisine, reflecting diverse influences rather than fusion. “We are a continental kitchen, which describes the different influences that have shaped the menu—French, Asian, British," explains Doctrove. His approach to cooking is to keep things simple and let the quality of the ingredients shine.

Jimmy’s Kitchen’s revival is a testament to its enduring legacy and the timeless appeal of its classic dishes, ensuring that it continues to be a beloved culinary destination in Hong Kong.

Jimmy’s Kitchen
M/F, Pedder Building, 12 Pedder Street, Central
Tel: (+852) 2526 5293
Reservations required.

All images courtesy of Jimmy’s Kitchen.

From the article on robbreport.hk by P.RAMAKRISHNAN

Baked Alaska at Jimmy’s Kitchen
Share on

Published 8th June 2024
×