ก่อนการแข่งขัน Formula 1 กรังปรีซ์ สนามที่ไมอามี่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้น โดยกองเชียร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า Max Verstappen แชมป์เก่าและผู้นำคะแนนสะสมในขณะนั้น จะคว้าชัยชนะ ขณะเดียวกัน Ferrari ก็มีความหวังไม่น้อย หลังจากเผยโฉมรถแข่ง 12Cilindri ใหม่ และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบคัดเลือก
แต่ผลการแข่งขันกลับสร้างความประหลาดใจ เมื่อ Lando Norris นักขับจาก McLaren พลิกล็อกคว้าชัยชนะไปครอง โดยทำเวลาเหนือกว่า Verstappen ถึง 7.6 วินาที แม้จะเป็นผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย แต่ Charles Leclerc และ Carlos Sainz นักขับของ Ferrari ก็สามารถคว้าอันดับ 3 และ 5 ตามลำดับ โดย Sainz จะถูกแทนที่โดย Lewis Hamilton ในฤดูกาลหน้า
ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ Norris ยุติสถิติการไร้ชัยชนะ และคว้าแชมป์ Formula 1 ครั้งแรกในอาชีพ สร้างความยินดีให้กับแฟนๆ รวมถึงตัว Norris เองที่พิสูจน์ฝีมือให้กับผู้ที่เคยสบประมาท
แม้ McLaren ยังคงอยู่อันดับ 3 ในตารางคะแนนประจำทีม ตามหลัง Ferrari และ Red Bull แต่ชัยชนะของ Norris จุดประกายความหวังให้กับสื่อมวลชนอังกฤษ ว่า McLaren อาจก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งของ Ferrari ได้ อย่างไรก็ตาม ลำดับชั้นของทีมใน Formula 1 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดย Mercedes และ Aston Martin รั้งอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ
แม้ว่าอันดับของแต่ละทีมอาจจะคาดเดาได้ แต่กระแสความนิยมของ Formula 1 ยังคงสูง โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับแรงผลักดันมาจากการแข่งขันสนามไมอามี่ และความนิยมที่กลับมาอีกครั้งจากซีรีส์ “Drive to Survive” ทาง Netflix การแข่งขันที่ไมอามี่ทำลายสถิติเรตติ้ง สะท้อนถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของสนามแข่งแห่งนี้ในปฏิทิน Formula 1
นอกจากความเร้าใจของการแข่งขัน สนามไมอามี่ ยังได้รับความสนใจจากเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Zinedine Zidane, Tom Brady และ Kendall Jenner นอกจากนี้ ศิลปินอย่าง Ed Sheeran ก็มาร่วมงาน ทั้งแสดงดนตรี และนั่งรถ Mercedes ที่ขับโดย George Russell สัมผัสประสบการณ์ Hot Lap รอบสนามแข่งอีกด้วย
จากบทความโดย Erik Shilling
The anticipation leading up to the Miami Grand Prix was high, with expectations favoring Max Verstappen, the reigning Formula 1 champion and current points leader. Ferrari, buoyed by recent developments including the unveiling of the 12Cilindri car and strong qualifying performances, was also optimistic.
However, the race itself brought a surprise victory by Lando Norris driving for McLaren, who outpaced Verstappen by over 7.6 seconds. Despite the unexpected outcome, Ferrari’s Charles Leclerc finished third, and Carlos Sainz, who will be replaced by Lewis Hamilton next year, secured fifth place.
Norris’s win marked a significant milestone, breaking his winless streak and earning him his first Formula 1 victory. The victory was celebrated by many within the sport, with Norris himself expressing satisfaction in proving his critics wrong.
Although McLaren remains in third place in the constructor standings, behind Ferrari and Red Bull, Norris’s win ignited brief speculation in the British racing press about the team’s potential to challenge Ferrari. Nonetheless, the current pecking order of Formula 1 teams seems to be holding steady, with Mercedes and Aston Martin rounding out the top five.
Despite the predictable standings, interest in Formula 1 remains high, especially in the United States, fueled by events like the Miami Grand Prix and the resurgence of the sport’s popularity with the release of Netflix’s “Drive to Survive.” The Miami race garnered record viewership, indicating the growing importance of the event on the Formula 1 calendar.
Celebrity presence at the Miami Grand Prix added to the spectacle, with notable names such as Zinedine Zidane, Tom Brady, and Kendall Jenner in attendance. Even musician Ed Sheeran took part in the festivities, performing and experiencing a hot lap around the track in a Mercedes driven by George Russell.
From the full article by Erik Shilling