Piaget Society กลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในยุคนี้ นำโดย Ella Richards ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการตีความทางจิตวิญญาณ การสร้างสรรค์งานฝีมืออันวิจิตรของ เพียเจต์ (Piaget) ที่เชื่อมโยงกับโลกแห่งศิลปวัฒนธรรมยุคใหม่ ล่าสุด เมซงได้เผยโฉมบทบันทึกและความเป็นเอกลักษณ์ครั้งล่าสุดของนาฬิกา Piaget Andy Warhol ที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งเรือนเวลาที่นักสะสมโปรดปราน โดยนาฬิการุ่นนี้เป็นการตีความการออกแบบใหม่จากลวดลาย Clou de Paris ที่สวยงามตระการตา นำมารังสรรค์บนตัวเรือนควบคู่กับหน้าปัดสีน้ำเงินอันทรงพลังจากหินอุกกาบาต
Piaget Society
สมาชิกในครอบครัว Piaget ได้ร่วมกันสร้างโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ และความเชี่ยวชาญอันยอดเยี่ยม จิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกของ Georges-Édouard Piaget ผู้ก่อตั้งเมซง ได้ปูทางสู่การปลดปล่อยจินตนาการของนักออกแบบในการสร้างสรรค์กลไกที่มีความบางเป็นพิเศษ อันเป็นผลงานสร้างชื่อให้กับ Piaget มาจนทุกวันนี้ ในช่วงปี 1950s Valentin ทายาทรุ่นที่ 3 ผู้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของเหล่านักออกแบบ ด้วยการส่งพวกเขาไปค้นหาแรงบันดาลใจจากอุตสาหกรรมแฟชั่นชั้นสูงที่ กรุงปารีส ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทักษะงานช่างทองและถ่ายทอดความรู้นี้สู่คนรุ่นต่อรุ่น ในปี 1959 Piaget ได้เปิดตัวบูติคแห่งแรกของตนเองขึ้นในชื่อ “Salon Piaget" โดยบูติคแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงร้านขายนาฬิกาและเครื่องประดับเท่านั้น แต่เป็นเสมือนหอศิลป์ที่จัดแสดงไว้ด้วยชิ้นงานหัตถศิลป์อันล้ำค่า ที่ได้รับการรังสรรค์ด้วยความประณีต บูติคแห่งนี้คือจุดหมายปลายทางที่นำไปสู่การกำเนิด Piaget Society อันนำมาสู่ยุคแห่งงานฝีมือที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาทางศิลปวัฒนธรรม
Yves Piaget ทายาทรุ่นที่ 4 ของครอบครัวที่ได้เข้ามาบริหารงานในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 คือผู้ที่นำพา Piaget ก้าวขึ้นสู่เวทีระดับสากลได้สำเร็จ โดยเขาได้สร้างสัมพันธไมตรีอย่างแนบแน่นกับกลุ่มลูกค้าผู้เป็นบุคคลแถวหน้าจากหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบ นักแสดง นักดนตรี นางแบบ ศิลปิน ไปจนถึงชนชั้นสูงมากหน้าหลายตา ด้วยการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ที่มีชื่อเรียกว่า Piaget Society ซึ่งเปิดโอกาสให้เหล่าบุคคลผู้มีความโดดเด่นและพรสวรรค์ในแวดวงต่างๆ ได้มาพบปะสังสรรค์กันในงานปาร์ตี้ที่เขาจัดขึ้นภายใต้บรรยากาศอันน่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมด้วยการแสดงดนตรีและความบันเทิงแสนตระการตา ขณะเดียวกันลูกค้าที่ได้มาร่วมงานก็จะได้สัมผัสกับคอลเลกชั่นต่างๆ จากเมซงด้วย จิตวิญญาณของ Piaget Society ได้ขยายวงกว้างไปทั่วทวีปยุโรปก่อนที่จะข้ามไปขยายอาณาเขตถึงสหรัฐอเมริกา กลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์เฉพาะของ Piaget ที่ทำให้ แบรนด์มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น บุคคลสำคัญที่ให้ความสนใจและได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Piaget Society ในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 อาทิ Ursula Andress และ Roger Moore เป็นต้น การสร้างความใกล้ชิดระหว่าง แบรนด์กับเหล่าลูกค้าผ่าน Piaget Society ได้พัฒนาขึ้นปีแล้วปีเล่า จนเป็นเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของแบรนด์ที่เชื่อมโยงยุคสมัยต่างๆ เข้าด้วยกัน ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบผลงานสร้างสรรค์ใหม่ๆ และในวันนี้ Piaget ได้นางแบบสาว Ella Richards ผู้เป็น Face of the Maison นำพา Piaget Society ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ร่วมด้วยโกลบอลแอมบาสเดอร์อีกสองคน ได้แก่ นักแสดงหนุ่มชาวเกาหลีใต้ Lee Jun Ho และนักแสดงหนุ่มหล่อชาวไทยมากความสามารถ อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ ที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสะท้อนวัฒนธรรมอันรุ่งโรจน์ของ Piaget ในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
Andy Warhol and Piaget
Andy Warhol คืออีกหนึ่งบุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการศิลปะยุค 80 ได้รับการขนานนามว่าเป็นราชาแห่งศิลปะแนวป๊อปอาร์ต ความสามารถของเขาเป็นที่ประจักษ์จากผลงานทั้งในด้านการโฆษณา สื่อสิ่งพิมพ์ เพลง ภาพยนตร์ และอื่นๆ เขาเป็นที่รู้จักของผู้คนในทุกๆ วงการตั้งแต่ระดับปัญญาชน ดาราฮอลลีวูด ไปจนถึงบุคคลในแวดวงชนชั้นสูง และ Yves Piaget ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รู้จักกับเขา Andy Warhol เป็นลูกค้าคนสำคัญของ Piaget โดยก่อนปี 1973 เขามีคอลเลกชั่นนาฬิกา Piaget อยู่ 6 เรือน และเขาได้เสริมคอลเลกชั่นของตนเองด้วยเรือนเวลาอีกหนึ่งเรือน ซึ่งถือเป็นนาฬิกาที่สร้างภาพจำให้แก่ผู้คน หากกล่าวถึง Andy Warhol และ Piaget นั่นคือ นาฬิกา Black Tie ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1972 นาฬิการุ่นนี้มีตัวเรือนรูปทรงคุชชั่นขนาด 45 มิลลิเมตร ผลิตขึ้นจากทองคำ คู่กับหน้าปัดสีแอนทราไซต์ที่มีความเหลือบวาว แสดงเวลาอย่างเรียบง่ายแบบสามเข็ม พร้อมช่องหน้าต่างแสดงวันที่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ขับเคลื่อนโดยกลไก Beta 21 จับคู่กับสายหนังสีดำ เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ Piaget ที่มีเอกลักษณ์อันลงตัวกับบุคลิกของความเป็นนักคิดผู้เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์อย่างยิ่ง
ความสัมพันธ์ระหว่าง Andy Warhol และ Yves Piaget เกิดขึ้นจากการพบกันครั้งแรกในปี 1979 ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมา มิตรภาพระหว่างบุคคลผู้มีวิสัยทัศน์ทั้งสองก็ดำเนินเรื่อยมาและสร้างชื่อเสียงให้กับ Piaget Society มากยิ่งขึ้น พวกเขาทั้งสองมักจะพบปะกันในการจัดงานปาร์ตี้ ทั้งในนิวยอร์ก ปาล์มบีช วอชิงตัน หรือปารีส โดยพบกันที่ Studio 54 และ Chez Régine ทั้งนี้นาฬิกา Piaget จำนวน 7 เรือนของ Andy Warhol มีนาฬิกาถึง 4 เรือนที่ปัจจุบันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชั่นส่วนตัวของ Piaget กล่าวได้ว่า Andy Warhol เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณแห่ง Piaget และ Piaget Society อย่างแท้จริง สัมพันธไมตรีอันแน่นแฟ้น เป็นเอกลักษณ์และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานร่วมกันระหว่าง Andy Warhol กับ Yves Piaget ยังคงดำเนินมาจนถึงปัจจุบันผ่านการจับมือกันอย่างเป็นทางกันระหว่าง Piaget และมูลนิธิ The Andy Warhol Foundation for the Visual Arts อันนำมาซึ่งการเปลี่ยนชื่อของนาฬิการุ่น Black Tie มาเป็นนาฬิกา Andy Warhol ในวันนี้ อีกทั้ง Piaget ยังได้รังสรรค์นาฬิกา Andy Warhol รุ่น Clou de Paris ขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองจุดเริ่มต้นแห่งการร่วมมือครั้งสำคัญนี้
The Andy Warhol Clou de Paris Watch
Clou de Paris หรือที่เรียกอีกอย่างว่า hobnail เป็นเทคนิคการตกแต่งที่ประณีตและสง่างามที่สุดอย่างหนึ่งในการประดิษฐ์นาฬิกา เป็นการรังสรรค์ลวดลายกิโยเช่ที่มีลักษณะเหลี่ยมทรงพีระมิดขนาดเล็ก เรียงต่อกันเป็นลวดลายที่นำมาตกแต่งบนชิ้นงานเครื่องประดับอัญมณี ลวดลายนี้เป็นส่วนหนึ่งของตัวตนแห่ง Piaget อันนำมาใช้ในการตกแต่งนาฬิการุ่นต่างๆ ในช่วงทศวรรษที่ 1970 สำหรับการสร้างสรรค์นาฬิกา Andy Warhol ทีมงาน Ateliers de l’Extraordinaire ของ Piaget ต้องใช้เวลาถึง 10 เดือน ในการพัฒนาและปรับปรุงขั้นตอนการสร้างลวดลาย Clou de Paris ที่มาแทนลวดลาย Gadroon (กาดรูน) ในเวอร์ชั่นดั้งเดิม บนตัวเรือนทรง คุชชั่นไวท์โกลด์ให้มีความสมบูรณ์ที่สุด อีกทั้งลวดลาย Clou de Paris ที่ได้รับการรังสรรค์ด้วยฝีมืออย่างพิถีพิถันบนพื้นผิวโค้งมน จะมีความละเอียดอ่อน สร้างเสน่ห์อันเย้ายวนเมื่อต้องแสงได้อย่างน่าอัศจรรย์
นอกจากการตกแต่งด้วยลวดลาย Clou de Paris นาฬิกา Andy Warhol รุ่นนี้ยังได้นำเอาหินอุกกาบาตสีน้ำเงินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบลงบนหน้าปัด มอบสีสันอันทรงพลังและการเล่นแสงที่ไม่เหมือนใคร หินอุกกาบาตเป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งการออกแบบของ Piaget ที่มักจะนำเอาหินล้ำค่ามาใช้ในการตกแต่งเครื่องประดับและนาฬิกาของตนเอง และเป็นวัสดุเฉพาะที่ทางแบรนด์สงวนไว้สำหรับการสร้างสรรค์อันพิเศษสุด หินอุกกาบาตสีน้ำเงินช่วยเพิ่มคุณค่าอันหาได้ยากยิ่งและสร้างความโดดเด่นให้กับนาฬิกา Andy Warhol เรือนใหม่นี้ ความงดงามในสไตล์วินเทจประการสุดท้ายที่เน้นย้ำถึงลักษณะเฉพาะของการออกแบบ คือเข็มนาฬิกาสไตล์ดอฟินและหลักชั่วโมงที่สง่างาม ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ in-house 501P1 Manufacture ที่เที่ยงตรง
นาฬิการุ่น Clou de Paris นี้ถือเป็นการเพิ่มสไตล์ใหม่และความร่วมสมัยให้กับคอลเลกชั่นนาฬิกา Andy Warhol ซึ่งเดิมมีการตีความเพียงไม่กี่แบบจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ นาฬิการุ่น High Jewellery Metaphoria ในปี 2023 ที่ประดับด้วยมรกตเจียระไนทรงบาแกตต์ล้อมหน้าปัดที่ได้จากไม้กลายเป็นหิน นาฬิการุ่นตัวเรือนโรสโกลด์คู่กับหน้าปัดมาลาไคต์และหน้าปัดสีดำ อีกทั้งในบรรดาชิ้นงานสั่งทำทั้งหมด มีคอลเลกชั่นส่วนตัวของนาฬิกา Andy Warhol ที่ไม่ซ้ำใครอีกจำนวน 10 เรือน ซึ่งจัดแสดงที่ Society Bar ภายในบูธของ Piaget ที่งาน Watches and Wonders 2023 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวนาฬิกาใหม่รุ่นนี้ Piaget จึงได้เสริมบริการสั่งทำพิเศษ โดยยังคงนำเสนอบริการการปรับแต่งตามแนวคิดที่สืบเนื่องมาจากบูติคแห่งแรกของ Piaget ที่กรุงเจนีวาในปี 1959 และได้กลับมาให้บริการอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาภายใต้แนวคิด Infinitely Personal สำหรับนาฬิกา Andy Warhol รุ่นใหม่ ลูกค้าจะได้รับตัวเลือกในการปรับแต่งมากมาย โดยเริ่มจากตัวเลือกของหินล้ำค่าชนิดต่างๆ สำหรับนำมาผลิตเป็นหน้าปัดซึ่งมีให้เลือกมากถึง 10 ชนิด รวมถึงหน้าปัดหินอุกกาบาตด้วย พร้อมด้วยการนำเสนอตัวเลือกของรูปแบบหน้าปัดใหม่ๆ เช่น หน้าปัดรูปเหยี่ยวที่มีความโดดเด่น ที่เข้ามาเสริมนาฬิการุ่นซิกเนเจอร์ของ Piaget ที่มีอยู่แล้วและได้รับความนิยมจากลูกค้ามายาวนานอย่างรุ่นหน้าปัดเทอร์ควอยซ์และมาลาไคต์ โดยสามารถจับคู่กับสายหนังที่มีสีให้เลือกมากถึง 5 สี ในขณะที่นักสะสมยังสามารถเลือกเข็มนาฬิกาสไตล์ดอฟินใหม่หรือเข็มทรงบาตองในแบบดั้งเดิมได้อีกด้วย ส่วนตัวเรือนมีให้เลือกระหว่างวัสดุไวท์โกลด์และโรสโกลด์ ให้ผู้รักนาฬิกาสามารถสร้างผลงานศิลปะบนข้อมือของตนเองได้อย่างภาคภูมิใจ เช่นเดียวกับการสร้างงานศิลปะของ Andy Warhol โดยบริการใหม่นี้เปิดตัวขึ้นเพื่อเริ่มต้นบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นของนาฬิการุ่นไอคอนิกเรือนนี้
Piaget The Andy Warhol Clou de Paris Watch
The Piaget Andy Warhol watch debuts a new design interpretation, featuring a stunning Clou de Paris pattern on the case and a powerful blue meteorite dial. A new chapter and identity for this collector cult favourite.
Created in 1972 and produced for less than a decade before its revival in 2014, this elegant masterpiece is today synonymous with the artist and cultural icon, Andy Warhol (1928-1987). A friend of the Maison, who was a key member of the Piaget Society, Andy Warhol owned no less than seven Piaget watches. But among this eclectic collection, the watch that he is most associated with is the era-defining Beta21 movement, previously named the Black Tie watch. With its daring and bold 45mm-diameter cushion-shape case, which is elegantly ringed with signature gadroons, the design has become a collector reference – coveted by watch enthusiasts all over the world.
Now, thanks to an official new collaboration under license with The Andy Warhol Foundation for the Visual Arts, Piaget and the Foundation have formally renamed the timepiece: the Andy Warhol watch. The first watch celebrating this exciting union is a new and contemporary design interpretation: the Andy Warhol Clou de Paris watch. Featuring a shimmering Clou de Paris finish on the case, the launch is further complemented by Piaget’s enhanced Made to Order personalization service, inviting collectors to create their very own Andy Warhol watch.
“The Andy Warhol Foundation is delighted to celebrate the bond between Warhol and Piaget through an eponymous watch with an ethos as timeless, iconic, and singular as its namesake." said Michael Dayton Hermann, Director of Licensing, Marketing, and Sales at The Andy Warhol Foundation for the Visual Arts.
“We are deeply honoured and delighted by the trust that the Andy Warhol Foundation is showing in Piaget, highlighting the deep and sincere relationship between the Maison and Andy Warhol. A new dawn for this very unique timepiece, beloved by all," said Benjamin Comar, CEO of Piaget.
Reimagining An Icon
One of horology’s most refined and elegant decorative techniques, Clou de Paris – also known as hobnail – is a guilloché motif featuring a jewellery-like pattern of small, pyramid-like squares. The decoration is firmly a part of Piaget’s DNA and adorned its most stylish watches in the 1970s, from round to shaped designs. But playing with an icon is never easy, and for the Andy Warhol watch, Piaget’s Ateliers de l’Extraordinaire spent 10 months developing and perfecting the Clou de Paris finish on the white gold case. Reminiscent of the original signature gadroons, the challenge lay in the watch’s cushion-shaped case. Not only did the Clou de Paris pattern has to be meticulously hand-finished on a curved, rather than flat, surface, it also had to achieve the same subtle layering, wondrous play of light and alluring artistry of the original gadroons.
Complementing this finish is a one-of-a-kind blue meteorite dial. Featuring a powerful hue and unique reflection, the meteorite nods to Piaget’s signature in designing with ornamental stones and is a distinctive material that the Maison has reserved for extraordinary creations. Here, the blue meteorite adds a sense of rarity and distinction to the new Andy Warhol watch. A final vintage flourish highlights the design’s singular character: dauphine-style hands and elegant indexes.
With its new Clou de Paris decoration and bold vintage identity – and powered by the in-house 501P1 Manufacture self-winding movement –the new Andy Warhol watch Clou de Paris feels like a natural part of the collection. It is a fresh and contemporary addition to a namesake collection that features only a handful of interpretations to date: among them 2023’s High Jewellery Metaphoria piece with baguette-cut emeralds framing a petrified wood dial; rose gold models with malachite and black dials; and among all the bespoke pieces, a private collection of 10 unique Andy Warhol watches which was exhibited in the Society Bar of Piaget’s booth during Watches and Wonders 2023.
Andy Warhol and Piaget
In 1973, Andy Warhol acquired his Piaget Black Tie watch, adding to the six other Piaget timepieces that he owned (four of which are today part of Piaget’s Private Collection). Andy Warhol became an authentic friend of the Maison, having met Yves Piaget in 1979 in New York. The pair developed a close bond, with Andy Warhol a regular member of the Piaget Society, travelling with Yves Piaget to
glamorous events hosted in New York and Palm Beach. Both were also frequently spotted among the beau monde at the likes of Studio 54 and Chez Régine. In 1983, Yves Piaget was profiled in Interview magazine, the publication Warhol founded in 1969, featuring a discussion with the young artist and gallery owner Robert Lee Morris.
Andy Warhol truly embodies the spirit of Piaget and Piaget Society. His unique and historic friendship with Yves Piaget has now been recognised by The Andy Warhol Foundation for the Visual Arts.
Rare Specimens
An important collectors’ reference and a watch that changed the course of history, the Andy Warhol watch grew by word-of-mouth to become one of the most coveted and collectible luxury timepieces today. To further celebrate the launch of this icon, Piaget has enhanced its made to order service, continuing a personalisation offering that dates back to Piaget’s first Geneva boutique in 1959, and which in more recent years has relaunched as the Infinitely Personal concept.
For the new Andy Warhol watch, clients will be offered a host of customization options, starting with up to 10 different ornamental stone dials, and the meteorite dial. Among the new possibilities is eye-catching falcon eye, which joins existing Piaget signatures which have long been popular with clients, like turquoise and malachite. This can be matched with up to five different colours for the leather
strap, while collectors can also opt for either the new dauphine-style hands or the original batons. Finally, the case can come in either white or rose gold – enabling watch lovers to, not unlike Andy Warhol, proudly create a piece of art for their wrists. A revamped service launched as the exciting next chapter for this iconic timepiece begins.
Piaget Society
“There is one stone that perfectly captures the richness of planet Earth: the opal. Opals are made up of crystals, which differ in terms of their physical structure and chemical composition. Despite their varying properties, the crystals communicate with each other, cemented together in the same stone. To me, the world according to Piaget is like an opal." Yves Piaget
Art Meets Craftsmanship
This is a story of family loyalty, which unfolds like a legend, like an epic poem. Loyalty drove the Piaget family to invent a world that has become legendary over the course of its history, a world governed by a sense of extended family, whose members are bound by creativity, daring design and exceptional savoir-faire. The pioneering spirit of the Maison’s founder, Georges-Édouard Piaget, has rippled through the family’s generations and, in the late 1950s, led to an invention that would unleash designers’ imaginations: the ultra-thin movement. Carrying on a legacy as inventive as it was exacting, Valentin, the third-generation scion, was the first to send designers to Paris so that they could draw inspiration from Haute Couture fashion shows. At Piaget, goldsmithing reigns supreme. Within the Ateliers de l’Extraordinaire, master artisans harness skills that have been preserved and perfected from generation to generation, transforming gold, ornamental stones and precious gems into dazzling works of art. Opening in 1959, Piaget’s first boutique was named ‘Salon Piaget’. It was not just a shop; it was a destination. An intimate haven with an unforgettable atmosphere. Within its
walls, craftsmanship was seen as an art, and artisans were recognised as artists. In the early 1960s, Yves Piaget, the family’s fourth-generation descendant, joined the company. Under his guidance, the Maison founded in La Côte-aux-Fées in the Swiss Jura mountains burst onto the international stage, with its avant-garde collections heralding a new aristocracy of clients.
The first High Jewellery creations launched by Piaget in 1959 were strikingly original treasures blending asymmetrical lines and mixed stone cuts. These pieces were meticulously crafted, timeless works of art. Their elegant and daring designs would draw the attention of some of the era’s brightest stars, including Jacqueline Kennedy Onassis, Elizabeth Taylor and Gina Lollobrigida. This display of talent would also lay the foundations for close collaborations with artists, starting with Salvador Dalí in 1967.
Unlike traditional shop windows, the windows of Piaget boutiques are narrow, bringing together a select display of wonders that compel passers-by to stop and examine them more closely. The sign above the door has an aura of mystery, sparking desire. Even in 1959, Salon Piaget looked more like an art gallery than a shop: a boldly designed oasis, a place that celebrated craftsmanship and extraordinary treasures. This multifaceted and sparkling boutique became a unique place for paths to cross, paving the way for the Piaget Society. This was an era of cultural effervescence. “We create watches, we don’t manufacture them," stressed Yves Piaget. The round or square cases of his gold
creations were adorned with gadroons that framed the dials with spectacular decorative features: captivating red moss agate, striated emerald-green jasper and searing turquoise. These jewellery watches attracted the attention of the jet set, a glamorous community of designers, actors, musicians and models who made up the hedonistic artistic intelligentsia of their time. Andy Warhol would later become their undisputed leader.
Piaget became a world of its own. A world of creativity and passion, combining elective affinity with diverse encounters. A creative workshop, a watchmaking firm and a High Jewellery Maison, this small company became a platform for artistic and cultural discovery. It was a place to be, elitist yet inclusive, where every client could experience a historic moment.
A New Experience of Time
A charismatic figure, a keen traveller and a lover of roses and horse riding, Yves Piaget cherished the sense of extended family. He formed genuine friendships with his clients, as well as with actresses, artists and businessmen. Clients became his friends and friends became his clients. With no hierarchy or strategy in place, Yves Piaget spontaneously established the outlines of a society that allowed a variety of figures to rub shoulders who would never have met without his help. He sketched out a world that drew inspiration and strength from unique personalities and their various talents. The Piaget Society was a network of intimate relationships in constant flux, a tapestry of blossoming personalities and stories. Its reputation influenced the era itself. In the 70s and 80s, iconic figures on the international stage, such as Ursula Andress and Roger Moore, gravitated towards the Piaget Society.
With his keen intuition and his power to forge relationships, Yves Piaget broke down barriers to bring people together. Able to plan unique trajectories that allowed even the most contradictory paths to cross, he organised events where clients, artists, celebrities and friends of the Maison spent time together in magical places with spectacular surroundings. These events not only showcased the Maison’s collections but also its strong creative momentum. The spirit of the Piaget Society, which first spread across Europe and then to the United States, became one of the Maison’s signature features, intensifying Piaget’s aura. This was the golden age of the early 80s, defined by extravagance and celebration: an age of economic empowerment and festive liberation in the sphere of high society.
From Capri to Saint-Tropez, from Palm Springs, Monaco or Portofino in summer to Gstaad, Aspen or Courchevel in winter, the Piaget Society caused a new way of life to emerge, glamorous and serenely opulent, allowing its members to experience a lifestyle that was both elegant and exuberant. Piaget parties became unmissable events. Concerts, performances and dinners regularly took place in iconic palaces such as Hôtel Hermitage, Eden Rock or The Breakers. In these exclusive locations, a family feeling developed within this close inner circle, built on a sense of intimacy and freedom. These decisive years for the Maison have continued to influence the company throughout its contemporary history. The spirit of the Piaget Society still reigns over the brand: avant-garde icons from the past continue to inspire designs for new creations, and all the unique moments of the Maison’s history combine to form a golden thread linking its different eras.
A new generation of inspiring figures now make up the Piaget Society: a community of friends and family led by Ella Richards. The granddaughter of Keith Richards, daughter of Lucie de la Falaise, and great-niece of Yves Saint Laurent’s muse Loulou, Ella symbolises ultimate chic combined with an impressive lineage. The Piaget world she inhabits is a new interpretation of the Maison’s radiant artistic spirit, made up of movement, music and dance.
Piaget and Warhol: Elective Affinity
The artistic intelligentsia of the 80s, synonymous with spirit, talent and distinction, were strongly influenced by Andy Warhol. A figure who was as famous for his prints, his work as a music producer and his avant-garde films as he was for his connections with intellectuals, Hollywood stars and aristocrats. A highly publicised figure and the king of pop art, this artist was watched by the world as he immersed himself in both the underground scene and high society of his time. Yves Piaget and Andy Warhol met in 1979. Piaget’s most influential, most publicised and most lasting relationship may have been his friendship with Andy Warhol. The two men were both discreet yet flamboyant, spiritual and cultured. Their friendship was firmly rooted in art, culture and the emerging world of the media and the press. Yves Piaget and Andy Warhol often travelled together and met at the same events in New York or Palm Beach, Washington or Paris, encountering each other at Studio 54 and Chez Régine. In 1983, Andy Warhol devoted a high-profile interview to Yves Piaget, conducted by the gallery owner Robert Lee Morris, which featured in his famous magazine Interview. In the mid-70s, Andy Warhol came to Piaget to buy an inventive and sophisticated yellow-gold watch with a galvanised anthracite-coloured dial. An avant-garde piece, this was a watch for artists, thinkers and creators, tinged with the spirit of the jet set, which in its turn was endlessly inspired by Piaget’s daring vision. Warhol owned seven Piaget watches, including this yellow-gold model that beat to the tempo of the quartz movement Beta 21. This watch joined the ranks of the six Piaget watches he already owned, four of which are now part of Piaget’s Private Collection. However, it was this particular timepiece that would continue to be associated with him in people’s memories.
A Legendary Movement
The flamboyant era of the Piaget Society shaped the Maison’s history and has now become the banner of a uniquely precious vintage watch. The piece reflects this virtuous circle, this creative chronology. An eternal style icon with stunning curved lines, once a favourite of Andy Warhol’s, this watch has become legendary and is now marking its triumphant return to the Maison. It has been renamed the Andy Warhol watch. All the glamour, daring and creativity of the Piaget Society shine through in this one-of-a-kind object of desire, passing on the legacy of a bygone era that constantly went against the tide. With its 45 mm-diameter case, the Andy Warhol is a collectors’ watch, ideal for those hunting for rare timepieces decorated with the Maison’s signature ornamental stones. A symbol of pop culture and the free celebratory spirit of the Piaget Society, the Andy Warhol watch is the ultimate mark of distinction and luxury, a watch whose curved lines have changed the course of history.