Audemars Piguet Royal Oak Offshore
Royal Oak Offshore รุ่นที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ เป็นรุ่นขนาด 44 มม. ที่ผลิตครั้งสุดท้ายตั้งแต่ปี 2010 และได้เงียบไป ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของรุ่น 43 มม. ใหม่ ด้วยการออกแบบที่มีรูปทรงโค้งงอและพลังงานที่ทนทานมากยิ่งขึ้น
การปรับปรุงตัวเรือนประกอบด้วยการลบมุมแบบขัดเงาที่เด่นชัดยิ่งขึ้นบนขอบตัวเรือน และเพิ่มส่วนโค้งบนเม็ดมะยมล็อคด้วยสกรู แป้นกดโครโนกราฟและคริสตัลแซฟไฟร์กันแสงสะท้อน นอกจากนี้ยังมีระบบปลดอย่างรวดเร็วเพื่อสลับ “ขา” ของนาฬิกาด้วยสายรัดยางที่มีในเฉดสีดำ น้ำเงิน เทา และน้ำตาล
ภายในตัวเรือนผลิตด้วยไทเทเนียม สเตนเลสสตีล และพิงค์โกลด์ 18 กะรัต ในราคา 36,200 ดอลลาร์ 37,500 ดอลลาร์ และ 56,000 ดอลลาร์ ด้วยหน้าปัด Méga Tapisserie ลายวาฟเฟิลที่มีให้เลือกมากถึง 5 เฉดสี โดยมีตั้งแต่ สีดำ สีเทา สีฟ้า สีน้ำตาลอ่อนรมควัน และสีมะกอก
Its iconic Royal Oak Offshore hasn’t received an update since 2010, when the hefty 44 mm version was introduced, but this fall marks the debut of a new 43 mm model, with stately design flexes and a robust power source. Updates to the body include more pronounced polished chamfers on its case edge and added curves on the screw-locked crown, plus chronograph pushers and a glare-proof sapphire crystal. There’s also a quick-release system to swap out the watch’s “legs," with rubber straps available in shades of black, blue, gray and brown.
Set within titanium, stainless steel or 18-karat pink gold for $36,200, $37,500 and $56,000, five color variations of the waffle-patterned Méga Tapisserie dials are available, including black, gray, blue and a smoked light brown that, in some lights, appears a sort of olive hue.
