Ferrari 248: รถแข่งตำนานของ Michael Schumacher

นี่คือตัวอย่างที่ดีว่าทำไมวลี “สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด” จึงมีอยู่

ตัวอย่างของรถแข่ง Formula 1 Ferrari 248 ที่ขับโดย Michael Schumacher ในฤดูกาลสุดท้ายกับทีมจะถูกนำมาประมูลโดย RM Sotheby’s ในเดือนหน้า ลำดับของเขาในประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตได้รับการยืนยันนานก่อนที่เขาจะเคยได้อยู่หลังพวงมาลัยของรถคันนี้ และยังมีบทบาทสำคัญในการขัดเกลามรดกชิ้นนี้

ด้วยความเป็นไปได้ของ Lewis Hamilton และ Mercedes-AMG Petronas ไม่มีคู่หูผู้ขับรถ-ทีมแข่งที่ประสบความสำเร็จมากไปกว่า Schumacher และ Scuderia Ferrari ในประวัติศาสตร์ F1 ชาวเยอรมันช่วยให้ทีมกลับมาคว้าชัยชนะได้อีกครั้งในช่วงสิบเอ็ดฤดูกาลที่อยู่ร่วมกัน (1996 ถึง 2006) และกลายเป็นดาวเด่นของกีฬาในระหว่างนั้น โดยคว้าแชมป์ห้ารายการติดต่อกันระหว่างปี 2000 ถึง 2004 ยังไม่รวมถึงที่การที่เขาสามารถขับรถแข่งได้ยอดเยี่ยมหลายคันในช่วงเวลานั้น และใน 248 ที่เขาประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่

Ferrari พัฒนา 248 รถแข่งสำหรับใช้ในฤดูกาล F1 ปี 2006 Schumacher อาจไม่ได้คว้าแชมป์ในปีนั้น—ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของเขากับผู้ผลิตรถยนต์อิตาลี—แต่เขาสามารถพลิกความผิดหวังของการจบอันดับสามในปี 2005 และมีโอกาสคว้าแชมป์จนถึงสัปดาห์สุดท้ายของฤดูกาล ช่วงที่ดีที่สุดของ Schumacher ในฤดูกาลนั้นเกิดขึ้นโดยรถคันนี้ แชสซีหมายเลข 254 รถคันนี้ใช้งานตั้งแต่เดือนเมษายนถึงสิงหาคม และในช่วงเวลานั้นที่ผู้ขับขี่คว้าชัยชนะเจ็ดครั้งในเจ็ดครั้งของเขาในฤดูกาลนั้น (แกรนด์ปรีซ์ซานมาริโน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมัน) เขายังคว้าโพลโพซิชันสามครั้งในรถคันนี้ รวมถึงอันหนึ่ง (ที่ซานมาริโน) ที่ทำลายสถิติของ Ayrton Senna และครั้งสุดท้ายก่อนจะออกจากวงการการแข่งรถไป (สหรัฐอเมริกา)

ผู้ขายซื้อแชสซีหมายเลข 254 โดยตรงจาก Scuderia Ferrari ในปลายปี 2007 รถคันนี้ยังคงความเป็นรถแข่งเอาไว้เหมือนเดิมในช่วงเวลาที่อยู่ในสนามแข่งและได้รับการรับรอง Ferrari Classiche Red Book ในปี 2008 ซึ่งหมายความว่าแบรนด์นั้นเองได้ยืนยันว่ารถคันนี้ยังคงรักษาชิ้นส่วนของแต่งเดิมเอาไว้ รวมถึงเครื่องยนต์ V-8 2.4 ลิตรที่ดูดอากาศตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้ตัวรถสามารถขับกำลังได้ถึง 785 แรงม้าโดยเกียร์แบบยาว

แชสซีหมายเลข 254 จะถูกนำมาประมูลระหว่างการประมูลครั้งล่าสุดของ Sotheby’s Sealed การเสนอราคาสำหรับรถแข่งจะเริ่มในวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน และดำเนินต่อไปจนถึงวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน ยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะมีให้ตามคำขอ เมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของยานพาหนะต่อทั้งมรดกการแข่งรถของ Schumacher และ Ferrari มั่นใจได้เลยว่ารถคันนี้จะมีมูลค่าสูงมาก

จากบทความโดย Bryan Hood

Here’s a good example of why “last but not least" exists as a phrase.

An example of the Ferrari 248 Formula 1 race car driven by Michael Schumacher during his final season with the team will be auctioned off by RM Sotheby’s next month. His place in motorsports history was secure well before he ever got behind the wheel of this vehicle, but it still played an important part in burnishing his legacy.

With the possible Lewis Hamilton and Mercedes-AMG Petronas, there is no more successful driver-constructor partnership in F1 history than Schumacher and Scuderia Ferrari. The German helped return the team to its winning ways during their eleven seasons together (1996 to 2006) and became the sport’s biggest star in the process, claiming five titles in a row between 2000 and 2004. Needless to say, he drove several excellent race cars during that time, and it was in 248 that he achieved some of his greatest success.

Ferrari developed the 248 race car for use during the 2006 F1 season. Schumacher may not have won the title that year—which was his last with the Italian automaker— but he was able to bounce back from the disappointment of finishing third in 2005 and was had a shot at the championship until the season’s final weeks. Schumacher’s best stretch that season happened in this car, chassis no. 254. The car was in use from April until August, and it was in that period that the driver claimed five of his seven victories that season (the San Marino, European, United States, French, and German Grands Prix). He also took three pole positions in the car, including the one (at San Marino) that Ayrton Senna’s record and the final of his career (United States).

The seller purchased chassis no. 254 directly from Scuderia Ferrari in late 2007. The car wears the same racing livery during its time on the track and received Ferrari Classiche Red Book certification in 2008. That means that the marque itself has confirmed it to retain all its number-matching components, including a naturally aspirated 2.4-liter V-8 that makes 785 hp and longitudinal gearbox.

Chassis no. 254 will be go up for bid during the latest of the auction house’s Sotheby’s Sealed sales. Bidding for the race car is set to open on Thursday, November 14, and run until Tuesday, November 19. No estimate has been made public, though one is available upon request. Considering how important the vehicle is to both Schumacher and Ferrari’s racing legacy, it’s sure to command a hefty sum.

From the article by Bryan Hood

Share on

Published 22nd October 2024
×