มื่อคุณอยู่หลังพวงมาลัยของ Mercedes AMG GT R Roadster เป็นเรื่องยากที่จะไม่รู้สึกเหมือนมีการแข่งรถ เป็นการสัมผัสถึงความเร็ว แรง และมาตรฐานของตัวรถแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบในการขับขี่
ขณะที่พวกเขา Stirling Moss และ Juan Manuel Fangio ได้สัมผัสการขับ Mercedes-Benz 300 SLR สร้างสถิติของพวกเขาไปสู่ตำแหน่งที่หนึ่ง ทำให้เป็นการวางตำแหน่งเสร็จสิ้นตามลำดับในปี 1955
Mille Miglia GT R แบ่งปัน DNA อันน่าทึ่งของรุ่นก่อน ซึ่งรวมถึงฝากระโปรงที่กางออกและความสามารถในการบิดอย่างมีประสิทธิภาพทำให้การทำงานทั้งหมดจากกระบอกสูบทั้งแปดกระบอกที่อยู่ในมือ ด้วยแรงม้าที่เพิ่มเข้ามามากกว่าสองร้อยแรงม้า ในปัจจุบันเพื่อยกย่องความสำเร็จของผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติเยอรมันทั้งในอดีตและปัจจุบันในรถยนต์เปิดประทุน เช่น“ปิ๊กอัพ แรงบิด และเสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่น่าทึ่งมาก" มอร์แกน มอเรซ กล่าวไว้ว่า”แม้จะมีสุนทรียภาพอันน่าดุดันของ GT R พบว่ารถรุ่นนี้มีความสมบูรณ์แบบและตรงตามมาตรฐาน อย่างครบถ้วนโดยมีการปรับโครงสร้างให้เหมาะสมสำหรับทุกคนที่ต้องการมัน
When you’re behind the wheel of the Mercedes AMG GT R Roadster, it’s hard not to feel like racing icons Stirling Moss and Juan Manuel Fangio as they piloted their Mercedes-Benz 300 SLRs to a record-setting first- place finish and a second-place finish, respectively, in the 1955 Mille Miglia.
The GT R shares some of the remarkable DNA of its predecessor, including the outstretched hood and ability to wring every iota of performance from the eight cylinders on hand. With the addition of more than a couple hundred horsepower, the current incarnation pays tribute to the German manufacturer’s past and present motorsport accomplishments in a street-legal convertible.
“The pickup, torque and roar of the engine are spectacular," said Morgan Maureze. Despite the GT R’s aggressive aesthetic, the model came across as over engineered to some.
