แม้เศรษฐกิจโลกในปี 2020 ที่ผ่านมาจะเข้าขั้นย่ำแย่แต่รายงานล่าสุดจาก Bloomberg ยังโชว์ให้เห็นว่าตลาดรถยนต์หรูได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดย Mercedes-Benz ยังคงทำยอดขายรถยนต์หรูทั่วโลกได้เกิน 2 ล้านคันติดต่อกันเป็นปีที่ 5 และยังคงครองตำแหน่งรถหรูที่ขายดีที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 5 เช่นกัน โดยในปี 2020 นั้นขายได้ทั้งหมด 2,164,187 คัน ลดลงจากปี 2019 ราว 7.5 เปอร์เซ็นต์ โดยตลาดที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดก็ยังหนีไม่พ้นเป็นตลาดประเทศจีน ที่แบรนด์ขายรถไปได้ 774,382 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 11.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งโมเดลที่ขายดีที่สุดในปีที่มามานั้นตกเป็นของ Mercedes-Benz GLC มียอดขายรวมรวม 320,000 และ Mercedes-Benz S Class
Photo: Courtesy of Mercedes-Benz
ในขณะที่แบรนด์คู่แข่งเลือดเดียวกันอย่าง BMW นั้นทำยอดขายรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 2,028,659 คัน ลดลงจากปี 2019 อยู่ 7.2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งโมเดลที่ทำกำไรมากที่สุดนั้นเป็นรถยนต์กลุ่มแฟลกชิฟของแบรนด์คือซีรีส์ 7, ซีรี่ส์ 8 และ BMW X7 โดยมียอดขายรวมทั่วโลกอยู่ที่ 115,420 คันทั่วโลก มากขั้นกว่าเดิมถึง 70 เปอร์เซ็นต์จากปี 2018 ตลาดที่ขายดีที่สุดก็ยังคงเป็นตลาดจีน ทำยอดขายเพิ่มขึ้น 7.4 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว เช่นเดียวกับ Audi ที่แม้บริษัทแม่อย่าง Volkswagen จะมียอดขายทั่วโลกตกลงราว 15 เปอร์เซ็นต์ แต่ Audi ยังคงขายดีในจีนจนมียอดเพิ่มขึ้นมาถึง 5.4 เปอร์เซ็นต์ ปิดปี 2020 ไปด้วยยอดขายราว 1.7 ล้านคัน
Photo: Courtesy of BMW
ถึงภาพรวมยอดขายรถยนต์หรูในปีที่ผ่านมาจะยังคงไปได้ดี แต่นักวิเคราะห์และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เองก็เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของรถยนต์ไฟฟ้ามาที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาดไปอย่างมหาศาลจนหลายแบรนด์ต้องเร่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาจับตลาดบ้าง Mercedes-Benz บอกว่าปีที่ผ่านมารถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ขายไปได้มากกว่า 1.6 แสนคัน เพิ่มขึ้นสามเท่าจากปีที่ผ่านมา ฝั่ง BMW Group (BMW, MINI, Rolls-Royce) นั้นก็บอกว่าปีที่ผ่านมายอดขายรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าของ BMW และ MINI นั้นเพิ่มขึ้นมาเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ ขายได้ 192,646 คัน และในตลาดจีนเอง บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง Tesla และบริษัทท้องถิ่นอย่าง Li Auto ก็เริ่มเข้ามาชิงส่วนแบ่งรถยนต์หรูที่ครองตลาดโดยแบรนด์เยอรมันเหล่านี้แล้วด้วย
