ญี่ปุ่น มีหน่วยวัดเวลาที่แตกต่างออกไป โดยในแต่ละปี จะมี 24 ฤดูกาลและ 72 ฤดูกาลย่อย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนและถี่ถ้วนในการนับกาลเวลา การรับรู้เวลาเช่นนี้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนให้เห็นในงานฝีมือของแบรนด์ Grand Seiko และ Credor ของ Seiko Holdings หน้าปัดและกลไกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปของญี่ปุ่นกำลังได้รับความนิยมทั่วโลก
แม้ว่า Seiko จะมีประวัติศาสตร์ด้านกลไกควอตซ์ที่ราคาไม่แพง แต่ Grand Seiko และ Credor ก็ได้รับความนิยมเกินความคาดหมาย ต้องขอบคุณงานฝีมือที่พิถีพิถันและปรัชญาการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยี Spring Drive ของ Grand Seiko ผสมผสานกลไกการเคลื่อนไหวเข้ากับการควบคุมด้วยควอตซ์ เป็นนวัตกรรมตัวอย่างที่ดีของวิธีการบอกเวลาเพื่อให้ได้มาซึ่งความแม่นยำที่สูงโดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่
ความนิยมของ Grand Seiko ปรากฏให้เห็นจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในนาฬิกาทั้งรุ่นใหม่และวินเทจ นักสะสมทั้งหลายต่างก็ชื่นชมความสมดุลของแบรนด์ที่มาพร้อมกับความสวยงาม ความสามารถทางเทคนิค และแนวทางการนับกาลเวลาที่เปี่ยมไปด้วยความสวยงามและละเอียดอ่อน ในทางกลับกัน Credor ถือเป็นจุดสุดยอดของการผลิตนาฬิกาหรูของญี่ปุ่น โดยแต่ละเรือนประกอบขึ้นและตกแต่งด้วยงานฝีมืออย่างพิถีพิถัน
Micro Artist Studio ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตนาฬิกา Credor แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของญี่ปุ่นสู่ความเป็นเลิศในการผลิตนาฬิการะดับโลก แม้จะมีประวัติค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบกับศิลปินชาวสวิส แต่ช่างฝีมือในสตูดิโอเชี่ยวชาญในเรื่องกลไกซับซ้อนที่ เช่น เข็มนาฬิกาแบบนาทีต่อนาทีที่สามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ และได้รับการยกย่องจากบุคคลที่น่าเคารพทั้งหลายในอุตสาหกรรม
ประธานของ Seiko เน้นย้ำถึงความสมดุลระหว่างประเพณีของยุโรปและญี่ปุ่นในทั้งสองแบรนด์ของบริษัท โดย Grand Seiko มุ่งเน้นไปที่การผลิตนาฬิกาที่เน้นการใช้งาน และ Credor มุ่งเน้นไปที่ด้านศิลปะ การถกเถียงเชิงปรัชญานี้ขับเคลื่อนการแสวงหาความชัดเจน ความแม่นยำ และความสวยงามในนาฬิกาของทั้งสองแบรนด์อย่างต่อเนื่อง
จากบทความโดย PAIGE REDDINGER
In Japan, time is measured differently, with 24 annual seasons and 72 micro seasons, reflecting a nuanced and observational approach to the passage of time. This unique perception of time is reflected in the craftsmanship of Seiko Holdings’ Grand Seiko and Credor brands, which are gaining worldwide cult status for their dials and movements inspired by Japan’s changing landscape.
Despite Seiko’s history with affordable quartz movements, Grand Seiko and Credor have garnered prestige beyond their borders, thanks to their meticulous craftsmanship and unique design philosophy. Grand Seiko’s Spring Drive technology, combining mechanical movement with quartz regulation, exemplifies this innovative approach to timekeeping, achieving extreme accuracy without a battery.
The newfound fascination with Grand Seiko is evident in the increasing demand for both new and vintage models, with collectors appreciating the brand’s balance between aesthetics, technical prowess, and a poetic approach to time. Credor, on the other hand, represents the pinnacle of Japanese luxury watchmaking, with each piece meticulously assembled and finished by hand.
The Micro Artist Studio, where Credor timepieces are crafted, showcases Japan’s commitment to excellence in watchmaking. Despite their relatively short history compared to Swiss counterparts, the artisans at the studio have mastered intricate complications such as minute repeaters with self-taught expertise, earning praise from revered figures in the industry.
Seiko’s president emphasizes the balance between European and Japanese traditions in the company’s two brands, with Grand Seiko focused on functional watchmaking and Credor emphasizing artistry. This philosophical debate drives the continuous pursuit of legibility, accuracy, and beauty in both brands’ timepieces.
From the article by PAIGE REDDINGER