รถไฟฟ้า RS E-Tron GT Performance จาก Audi

Audi คงไม่สามารถเลือกชื่อที่เหมาะสมไปกว่า “RS E-Tron GT Performance” นี้ได้อีกแล้ว

แบรนด์รถยนต์สัญชาติเยอรมัน เพิ่งเปิดตัวรถซีดานพลังงานไฟฟ้ารุ่นท็อปสุด สำหรับปี 2025 รุ่นใหม่นี้ไม่เพียงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดของค่าย แต่ยังเป็นรถยนต์ที่ผลิตเพื่อจำหน่าย ที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทอีกด้วย

การเปิดตัว RS E-Tron GT Performance ถือเป็นการปรับโฉมครั้งสำคัญของตระกูล E-Tron GT ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ผู้ขับขี่จะมีตัวเลือก 3 รุ่น ได้แก่ S E-Tron GT, RS E-Tron GT และ RS E-Tron GT Performance การออกแบบภายนอกยังคงเดิม สิ่งที่แตกต่างเห็นได้ชัดคือ โลโก้วงแหวนของ Audi ที่ได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ด้านหน้า และหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ เสริมความหรูหราด้วยหลังคาแบบปรับแสงได้ ล้อแม็กซ์ลาย 6 ก้านขนาด 21 นิ้ว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรถต้นแบบ Avus Quattro ในช่วงต้นยุค 90 นอกจากนี้ RS E-Tron GT Performance ยังมีสีเขียวเบดฟอร์ด เป็นสีพิเศษเฉพาะรุ่น ห้องโดยสารกว้างขวาง ยังคงดีไซน์เดิมเอาไว้ แต่มีการปรับโฉมด้วยพวงมาลัยทรงสี่เหลี่ยม เบาะนั่งที่นั่งสบายยิ่งขึ้น และกราฟิกที่ทันสมัยมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับ E-Tron GT ปี 2025 เริ่มต้นที่ระบบส่งกำลังมอเตอร์คู่ที่ได้รับการปรับปรุง (และเบาลง) รุ่น S E-Tron GT และ RS E-Tron GT มีพละกำลังสูงถึง 670 แรงม้า และ 845 แรงม้า ตามลำดับ แต่จุดเด่นที่แท้จริงอยู่ที่รุ่น RS E-Tron GT Performance ด้วยระบบส่งกำลังที่ผลิตพละกำลังได้อย่างน่าทึ่งถึง 912 แรงม้า ซึ่งทำให้มันเป็นรถ Audi ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา (แม้จะยังคงเป็นรองญาติอย่าง Porsche Taycan Turbo GT ที่มีพละกำลัง 1,019 แรงม้า) ไม่น่าแปลกใจที่รุ่นนี้เป็นรถ EV รุ่นแรกของ Audi ที่ได้รับสมญานามว่า Performance รถซีดานรุ่นท็อปสุดนี้ยังเป็นรถที่เร็วที่สุดของแบรนด์อีกด้วย โดยสามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 2.5 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งแม้จะดูไม่เซอร์ไพรส์เท่า แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ

แม้พละกำลังและความเร็วจะเป็นจุดเด่นของ RS E-Tron GT Performance แต่ประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้มีแค่นั้น Audi E-Tron GT ได้รับการปรับปรุงแพ็คแบตเตอรี่ใหม่ โดยเพิ่มความจุที่ใช้งานได้จริงจาก 84 kWh เป็น 97 kWh ขณะที่น้ำหนักเบาลงกว่าเดิม 9 กิโลกรัม (อีกหนึ่งวิธีที่ทำให้รถซีดานรุ่นนี้ลดน้ำหนักลง) การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้รถ EV มีระยะทางวิ่งสูงสุด 378 ไมล์ (ประมาณ 608 กิโลเมตร) ซึ่งตัวเลขนี้วัดตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP ของยุโรปซึ่งค่อนข้างกว้างขวางกว่า ระบบชาร์จไฟยังได้รับการปรับปรุง ผู้ขับขี่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลาเพียง 18 นาทีเท่านั้น เมื่อเชื่อมต่อกับเครื่องชาร์จเร็วแบบ DC

รถยนต์ Audi E-Tron GT รุ่นใหม่จะวางจำหน่ายปลายปีนี้ โดย Audi ยังไม่ได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา แต่ในยุโรป ราคาเริ่มต้นของ S E-Tron GT อยู่ที่ 126,000 ยูโร (ประมาณ 135,300 ดอลลาร์สหรัฐ) RS E-Tron GT อยู่ที่ 147,500 ยูโร (158,400 ดอลลาร์สหรัฐ) และ RS E-Tron GT Performance อยู่ที่ 160,500 ยูโร (172,400 ดอลลาร์สหรัฐ)

จากบทความโดย Bryan Hood

The 2025 Audi E-Tron GT lineup
TSP/AUDI

Audi could not have picked a more apt name for the new RS E-Tron GT Performance.

The German marque has just unveiled a new range-topping version of its impressive battery-powered sedan for 2025. The new variant isn’t just the company’s most powerful EV, it’s its most powerful production car ever.

The RS E-Tron GT Performance debuts as part of the model’s mid-cycle refresh. Starting next model year, drivers will have three flavors to choose from: the S E-Tron GT, the RS E-Tron GT, and the RS E-Tron GT Performance. The design of the sedan’s exterior has been pretty much left alone, the biggest difference being a revised version of Audi’s ring logo up front and a carbon roof. Premium add-ons include a smart glass roof, 21-inch, six-spoke forged wheels inspired by those worn by the Avus Quattro concept from the early 1990s, and a Bedford green finish that’s only available on the RS E-Tron GT Performance. The EV’s spacious cabin looks just about the same, though it does now feature a squared-off steering wheel, better seats, and updated graphics.

The bigger changes for 2025 start with the E-Tron GT’s upgraded (and lighter) dual-motor powertrain. The units in the S E-Tron GT and RS E-Tron GT offer plenty of power—670 hp and 845 hp, respectively—but the bigger story here is the RS E-Tron GT Performance’s setup, which produces a staggering 912 horses. That figure makes it the most powerful Audi road car yet (although it is still less powerful than its cousin, the 1,019-hp Porsche Taycan Turbo GT). It’s little wonder the variant is the company’s first EV deemed worthy of the Performance tag. The top-of-the-line sedan is also the brand’s quickest car, sprinting from zero to 60 in 2.5 seconds. Top speed is a less surprising, but still impressive, 155 mph.

EV performance is about more than just brute strength and speed, though. The E-Tron GT is getting an upgraded battery pack that ups usable capacity from 84 kWh to 97 kWh, while weighing 20 pounds less than before (another way the sedan has shed pounds). Thanks to the change, the EV has a range of up to 378 miles, though that number was determined using Europe’s more generous WLTP testing cycle. Charging power has also been improved, so drivers will be able to take battery capacity from 10 to 80 percent in just 18 minutes when connected to a DC fast charger.

The new E-Tron GT will go on sale later this year. Audi has yet to announce U.S. pricing, but in Europe the S E-Tron GT will start at €126,000 (around $135,300), the RS E-Tron GT at €147,500 ($158,400), and the RS E-Tron GT Performance at €160,500 ($172,400).

From the article by Bryan Hood

Inside the 2025 Audi RS E-Tron GT Performance
TSP/AUDI
Share on

Published 19th June 2024
×